ณ ทรีธารา ริเวอร์ไซส์ รีสอร์ท อัมพวา ที่พักน่ารัก และเป็นมิตรกับธรรมชาติ

Travel1 ความเห็น บน ณ ทรีธารา ริเวอร์ไซส์ รีสอร์ท อัมพวา ที่พักน่ารัก และเป็นมิตรกับธรรมชาติ

ณ ทรีธารา ริเวอร์ไซส์ รีสอร์ท อัมพวา ที่พักน่ารัก และเป็นมิตรกับธรรมชาติ

สวัสดีค่ะ บทความนี้ผู้เขียนจะพาทุกท่านไปเปลี่ยนบรรยากาศ ดื่มชีวิตช้าๆและพักผ่อน ที่ รีสอร์ทสวยๆบรรยากาศดีๆที่ ณ ทรีธารา ริเวอร์ไซส์ รีสอร์ท อัมพวา อยู่ใกล้ๆกรุงเทพนิดเดียว ผู้เขียนไปเปลี่ยนที่นอนเล่นๆ หนึ่งคืนค่ะ

ทางเข้ารีสอร์ท ณ ทรีธาราค่า ทางเข้าที่จะผู้เขียนเข้าไปสัมผัสใกล้ชิดกับธรรมชาติ ทริปนี้ผู้เขียนพักแบบ เทอร์เรซ วิลล่า (Terrace Villa) นะคะ จะเป็นยังไงนั้น ตามมาชมกันเลยค่ะ

ขับรถเข้ารีสอร์ทมาแล้ว ก็เลี้ยวรถเข้ามาจอดกันเลยค่ะ วันนั้นไปถึงค่อนข้าวเร็วก่อนเวลาเชคอินเข้าห้อง บ่าย 2 เลยได้ที่จอดในร่มค่ะ

ทางรีสอร์ทปฏิบัติตาม นโยบายควบคุมโรคระบาดได้ตามมาตรฐานที่ดีเลยค่ะ มาพักผ่อนกันได้อย่างสบายใจเลย

บรรกาศทางขึ้นไปลอบบี้ของรีสอร์ท และ บริเวณหน้าห้องบอลรูม

ขึ้นมาเชคอินที่เคาท์เตอร์กันก่อนเข้าห้องกันค่ะ พนักงานเป็นกันเองมากเลยล่ะ จริงๆแล้วมีจัดเวลคั่ม ดริ้งค์ ให้ด้วยแต่ผู้เขียนไม่ทันได้ถ่ายมาค่ะอากาศร้อนมากดื่มหมดไปซะก่อน

มีผลิตภัณฑ์วางขายซะด้วย แพคเกจผลิตภัณฑ์ดูดีมีสกุลสุดๆ

มีรถตู้บริการไปกลับ ตลาดน้ำอัมพวา และตลาดน้ำดำเนินสะดวกนะคะ แต่ผู้เขียนไม่ได้ใช้บริการหรอก เพราะบรรยากาศที่รีสอร์ทสบาย เหมาะแก่การพักผ่อนมากๆค่ะ

หลังจากเชคอินแล้ว ก็ไปย้ายของจากรถเข้าที่พักกันเลยค่ะ หากมีสัมภาระเยอะ ทางรีสอร์ทจะมีบริการรถกอล์ฟไปส่งที่ห้องพักด้วยนะคะ

ที่พักโซนเทอร์เรซ วิลล่า ที่ผู้เขียนพักนะคะ จะมีเก้าอี้ให้นั่งจิบเบียร์ มองดูแม่น้ำ ใกล้ชิดธรรมชาติสุดๆไปเลยค่ะ ยามค่ำคืนมีแสงหิ่งห้อยให้เราชมด้วยนะคะ

เข้าห้องมา ที่ประตูจะมีทางหนีไฟระบุอย่างชัดเจนค่ะ

ก่อนเข้าที่พักจะมี ฮาลอนดับเพลิงไว้อยู่ พร้อมใช้งานเมื่อเกินเหตุฉุกเฉินนะคะ พร้อมใช้งานจริงๆเพราะเข็มอยู่บริเวณเขียว

ในห้องก็มีไฟฉาย จิตวิญญาณผู้เขียน จะนึกถึงความปลอดภัยบ่อยๆค่ะ ไม่ว่ากันนะคะ55555555 ฉะนั้น ณ ทรีธารา ก็ได้มาตรฐานด้านความปลอดภัยค่ะ

มาส่วนความสบาย ไว้พักผ่อนแล้วนะคะ 55555 เข้ามาจะมีผลไม้มาต้อนรับบนโต๊ะด้วยค่ะ ตุ๊กตาเป็ดสองตัวที่เป็นพร๊อบไม่เกี่ยวกับทางรีสอร์ทนะคะ ผู้เขียนพามาด้วยเองค่ะ 555555

มี การ์ดต้อนรับแขกเขียนด้วยลายมือมาวางด้วยค่ะ เป็นรายละเอียดที่น่าประทับใจแรกเข้าพักมากค่ะ

เตียงนอนขนาดคิงส์ไซส์นะคะ โดยส่วนตัวผู้เขียนว่า แข็งไปนิดนึง แต่ก็หลับสบายตลอดคืน ตื่นไปใส่บาตรต้องแหกขี้ตาหนักมากค่ะ 555555

ที่นอนริมหน้าต่าง นอนเล่นมือถือ หรืออ่านหนังสือสบายอารมณ์ หรือฟรีแลนซ์คนไหนอยากจะเปลี่ยนที่ทำงานได้นะคะ Work form resort ชีวิตดี๊ดีย์ 🙂

ตู้เสื้อผ้าค่ะ เรียบง่ายดีค่ะ เสื้อคลุม รองเท้าสลิปเปอร์ตีมสีน้ำเงินสบายตา ใส่คลุมไปว่ายน้ำได้ชิลๆเลย หากฝนตกก็มีบริการร่มคันใหญ่ไว้กันฝน ไม่ต้องไปช่วงชิง ลุ้นหน้าเคาท์เตอร์เหมือนโรงแรม สี่ดาวทั่วๆไปเลยค่ะ

ห้องน้ำนะคะ แยกส่วนเปียกส่วนแห้งชัดเจนตามมาตรฐาน

ผลิตภัณฑ์ สบู่ แชมพู หรือครีมบำรุงผิว ก็หอมคุณภาพดีมากๆค่ะ ผู้เขียนถูกใจสิ่งนี้

มีกระดาษสำหรับใส่ผ้า อนามัยเตรียมพร้อมให้คุณผู้หญิงด้วยค่ะ ที่ผู้เขียนประทับใจ เพราะส่วนมากเวลาไปพักตามโรงแรมทั้งในไทย หรือต่างประเทศ หากมีถุงสำหรับผ้าอนามัยเตรียมไว้จะผลิตจากพลาสติก แต่ที่นี่ใช้ผลิตภัณฑ์จากกระดาษค่ะ แถมดีไซน์ดี มีความเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากๆค่ะ เป็นรายละเอียดเล็กๆน้อยๆที่น่ารักเลย

ที่ประทับใจมากกกกก คือแปรงสีฟันทำจากไม้ค่ะ แม้แต่แปรงสีฟันก็ไม่ผลิตมาจากพลาสติกค่ะ แถมคุณภาพก็ดีมาก แปรงขนนุ่ม ไม่คับปาก หรือเล็กจิ๋วเกินไป สนุกกับการรักษาสุขภาพปากเพิ่มขึ้น 200 เปอร์เซ็นต์ไปเลยค่ะ 5555555555

ถังขยะก็คงคอนเซปรักษาสิ่งแวดล้อมค่ะ มีแบ่งไว้สำหรับขยะรีไซเคิลด้วยค่ะ แม้แต่ขวดน้ำในห้องก็ใช้ขวดแก้วนะคะ เท่าที่สังเกตดูสิ่งอำนวยความสะดวกทุกอย่างในห้องนี้จะพยายามใช้พลาสติกให้น้อยที่สุด คนรักสิ่งแวดล้อม ไปชอปปิ้งพกถุงผ้า หากมาที่นี่จะประทับใจมากขึ้น 300 เปอร์เซ็นต์เลยค่ะ 🙂

เพดานสูง ให้ความรู้สึกปรอดโปร่งไม่อึดอัด

ทางรีสอร์ทมีสเปรย์แอลกอฮอล์พกพาแจกให้ด้วยนะคะ กลิ่นไม่ฉุนค่ะ กลิ่นสะอาด แถมพกใส่กระเป๋าได้ไม่กินเนื้อที่ด้วย

ออกไปเดินเล่นข้างนอกห้องพักกันบ้างนะคะ ช่วงบ่ายๆนี่ แดดร้อนเปรี้ยงเลย เมืองไทย แต่บรรยากาศรีสอร์ทก็เขียวขจีดีค่ะ

ท่าเรือ มีที่นั่งให้นั่งทานข้าว จิบกาแฟ ดื่มเบียร์ได้ชิลๆ ในช่วงแดดร่มลมตกนะคะ

แดดมันร้อนมากนัก แวะเข้าไปหาอะไรเย็นๆดื่ม ใน Mangrove Cafe ดีกว่า ที่นี่เป็นคาเฟ่ให้แขกมาสั่งอะไรดื่ม ได้ค่ะ รวมถึงเป็นที่ทานข้าวเย็นด้วยนะคะ

มีโปรโมชั่นและเมนูเครื่องดื่มเขียนอยู่ข้างหน้าคาเฟ่เลยค่ะ

บรรยากาศทางด้านในนะคะ เครื่องดื่มรสชาติดีค่ะ คลายร้อนของแดดเมืองไทยได้ชื่นใจ

เครื่องดื่มหมดแก้วแล้ว นัดกับน้องพนักงานไว้จะมาทานข้าวเย็นตอนห้าโมงนะคะ ออกมาดูบรรยากาศรอบๆรีสอร์ทกันบ้าง จะเห็นที่พักลักษณะเป็นห้องพัก แบบที่ไม่ใช่โซนเทอร์เรซ วิลล่าที่ผู้เขียนพักนะคะ

สระว่ายน้ำหน้าว่าย เตรียมชุดมานะ แต่ ตอนที่เดินมาดูเวลาที่อยากจะว่ายคนแอบเยอะ บวกกับผู้เขียนแพ้ทางให้กับห้องพักสบายๆ เขียนบทความได้เป็นพารากราฟเลยล่ะ ทั้งดูภาพยนตร์และวิจารณ์ได้มันมากค่ะ (บทความวิเคราะห์บทภาพยนตร์เรื่อง Parasite สนใจลองคลิกอ่านได้นะคะ อิอิ) ไอเดียเกิดจากมาพักรีสอร์ทเลย บรรยากาศดีมาก สมองแล่นเลยค่ะ

และแล้วก็ถึงเวลาทานอาหารเย็น แดดร่มลมตกแล้วนะคะ ทางรีสอร์ทเอา บีนแบค ออกมาวางให้แขกมานั่งผ่อนคลาย ทานอาหาร หรือเครื่องดื่ม ที่บรรยากาศริมแม่น้ำค่ะ แต่เราเข้าไปทานอาหารกันที่ด้านในคาเฟ่นะคะ

ผัดไทยกุ้งแม่น้ำ
อันนี้เมนูอะไรน๊า จำชื่อไม่ได้
ยำส้มโอ
สปาเกตตี้คาโบนาร่า
สปาเกตตี้กุ้งแม่น้ำ

ทุกเมนูรสชาติดีมากมายค่ะ สมราคาที่สุด

รับประทานอาหารเสร็จ ออกมาพระอาทิตย์ก็ตกดินแล้วค่ะ บรรยากาศสวยไปอีกแบบ

พรุ่งนี้ตอนเช้าเราจะตื่นมาใส่บาตรที่ท่าเรือ และ เวลาเก้าโมงเช้าจะออกเรือไปเที่ยวสวนมะนาวโห่กันค่ะ ZZZzzzzz

วาร์ปมาช่วงเวลาเช้ากันนะคะ มาใส่บาตรกันค่ะทางเราได้ลงชื่อจำนวนคนที่จะใส่บาตรไว้ตอนเชคอินเมื่อวาน เพื่อวันนี้ทางรีสอร์ทจะได้จัดเตรียมของใส่บาตรให้เรา ใส่ชะลอมสานมาให้น่ารักมากมาย

บรรยากาศยามเช้า คุ้งน้ำเย็นสบาย เพลินกายค่ะ

บนนยากาศพนะอาทิตย์ขึ้นยามเช้า ระหว่างรอพระท่านมาบิณฑบาตร

พระพายเรือมาแล้วค่ะ นิมนต์เจ้าค่ะ

ใส่บาตรกันค่ะ บนท่าเรือจะมีแขกมากมายมาร่วมกิจกรรมนะคะ ได้ยินแขกท่านอื่นๆว่าไม่ได้แหกขี้ตามาเช้าขนาดนี้นานแล้ว…. เหมือนผู้เขียนเลยค่ะ อิอิ

หลังใส่บาตร กรวดน้ำเรียบร้อยแล้ว เราก็มารับประทานอาหารที่ห้องอาหารกันค่ะ บรรยากาศก็จะประมาณนี้ค่ะ

มีโซนเครื่องดื่มยามเช้า น้ำเปล่า น้ำผลไม้ ชา กาแฟ หรือนม หากใครชอบทานอะไรง่ายๆก็มีคอนเฟลคให้ทานนะคะ

มีอาหารแบบไส้กรอก เบค่อน ไข่ดาว ตามสากลให้รับประทานกันง่ายๆ รวมถึงอาหารไทยๆแบบข้าวต้ม และผลไม้ไว้ล้างปากค่ะ ถ้าเดินออกไปด้านนอกหน่อย ข้างๆสระว่ายน้ะจะมีก๋วยเตี๋ยวให้ทานด้วยค่ะ แต่จะต้องเข้าคิวหน่อยนะคะ

หลังทาข้าวเสร็จก็พักผ่อนตามอัธยาศัยค่ะ เวลา 9 โมงก็มาที่ท่าเรือตามที่เราลงชื่อไว้ไปเยี่ยม สวนมะม่วงหาวมะนาวโฮ่ และแวะถ่ายรูปที่โบสถ์คริสต์ร้อยปีริมน้ำด้วยค่ะ ต้องลงชื่อจองคิวไว้ตอนเชคอินนะคะ เขาจำกัดจำนวนแค่ 30 คนเท่านั้น พอเริ่มสายแดดก็แรงได้ใจเลยค่ะ แนะนำเตรียมหมวกและแว่นกันแดดไปด้วยนะคะ

เรื่องความปลอดภัยบนเรือก็ได้มาตรฐานค่ะ มีเสื้อชูชีพจัดเตรียมไว้ให้

ล่องเรือไปตามแม่น้ำแม่กลองสักพักนะคะ เราก็มาถึงสวนมะนาวโห่ลุงศิริกันค่ะ

มีมุมให้ถ่ายรูป

มีสินค้าผลิตภัณฑ์จากสวนที่น่าสนใจให้เลือกซื้อด้วยค่ะ

บรรยากาศภายในร่มรื่น สบายอารมณ์

เวลานี้ทางฝั่งนี้ยังไม่ร้อนมากเท่าไหร่ค่ะ 55555555 ที่นี่มีคาเฟ่ให้แวะดับกระหายด้วยนะคะ

มีพรอบให้ฝึกกลั้นหายใจถ่ายรูปด้วยค่ะ อิอิ

มีชั้นดาดฟ้าขึ้นไปชมคุ้มแม่น้ำแม่กลอง ยิ่งสายแดดก็เริ่มคืบคลานเข้ามาที่สวนมะนาวโห่ลุงศิริ แล้วหนีกลับลงไปข้างล่างดีกว่า

สวนอยู่ติดแม่น้ำขนาดนี้ก็ต้องมีอาหารปลาจำหน่ายให้แขกได้ ให้อาหารปลาตามอัธยาศัย เป็นอาหารปลาสูตรธรรมชาตินะคะ ราคาถุงละ 10 บาท เท่านั้น ก่อนขึ้นเรือผู้เขียนเลยจัดให้เจ้าปลาหน่อยสักถุง

หลังจากสวนมะนาวโห่ลุงศิริ เราก็มาแวะต่อที่โบสถ์คริสต์ 100 ปี ริมน้ำค่ะ ถ้าถามว่าร้อนไหม ฉันตอบเลยว่ามากกกกกกก 5555555

ภายในตัวโบสถ์อยู่ระหว่างการปรับปรุงนะคะ ผู้เขียนเลยถ่ายมุมบันไดและเพดานมาฝากให้ชมเท่านี้ค่ะ เป็นการปิดทริป ลงเรือกลับมาถึงรีสอร์ทในเวลา 11 โมง นะคะ กลับมาเก็บของ และเชคเอาท์กลับกรุงเทพก่อนเวลาเที่ยงค่ะ เพื่อหนีรถติด 55555555555

โดยรวมการมาเปลี่ยนที่นอนครั้งนี้ ก็เป็นการใช้ชีวิตสโลว์ไลฟ์ ควรค่าแก่การมาพักผ่อนที่ ณ ทรีธารา ริเวอร์ไซส์ รีสอร์ท อัมพวา มากๆค่ะ ปิดทริปพักผ่อน เปลี่ยนที่นอนไปอย่างประทับใจเลยค่ะ

โครงการเราเที่ยวด้วยกัน

ทาง ณ ทรีธารา ก็ได้เข้าร่วมกับโครงการเราเที่ยวด้วยกันด้วยค่ะ สามารถใช้ได้ทั้งกับที่พักและร้านอาหารภายในโรงแรม รายละเอียดและเกี่ยวกับโครงการนี้และวิธีการใช้งานกับทาง ณ ทรีธารา สามารถชมได้ที่ลิงค์นี้เลยค่ะ

แผนที่ ณ ทรีธารา (Na Tree Tara)

มันส์ต้องแชร์
สาวอักษร มีประสบการณ์สอนหนังสือ และผันตัวมาเป็นแอร์ ช่วงพักบินทำกิมจิขาย อยากลองขีดๆเขียนๆ เลยมาเขียนให้ blogmun

One thought on “ณ ทรีธารา ริเวอร์ไซส์ รีสอร์ท อัมพวา ที่พักน่ารัก และเป็นมิตรกับธรรมชาติ

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

Back To Top