ตั้งแต่สมัยผู้เขียนเป็นเด็ก หากมีโอกาสไปแหล่งเรียนรู้เกี่ยวกับสิ่งมีชีวิต สถานที่ที่นึกถึงเป็นอันดับแรก ก็คือ สวนสัตว์แหล่งที่รวบรวม สัตว์หลากหลายชนิด และหลากหลายสายพันธุ์ จัดแบ่งเป็นโซนๆต่างกัน ทั้งสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม สัตว์ปีก สัตว์น้ำ สัตว์เลื้อยคลาน เที่ยวชมแบบใช้เวลาได้ทั้งวัน ชมในแต่ละโซน

พอโตขึ้นมาอีกนิดสู่วัยประถม ก็ได้ทำความรู้จักกับพิพิธภัณฑ์สิ่งมีชีวิต ที่เจาะจงลงไปมากกว่าสวนสัตว์ อย่างพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ อย่างที่ผู้เขียนยังคงประทับใจ และแม้จะเข้าสู่วัยผู้ใหญ่เต็มตัวแล้ว ก็ยังคงแวะเวียนไปอีก คือ พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำบางแสน หรือที่ใจกลางเมืองอย่าง Siam Ocaen World ที่ Siam Paragon ที่จัดแสดงสัตว์น้ำหลากหลายสายพันธุ์ไว้ให้ชม แค่ดูพวกปลาว่ายในน้ำก็รู้สึกเพลิดเพลินจรรโลงใจอย่างบอกไม่ถูกเลยล่ะ

ปัจจุบันวัยใกล้ๆขึ้นเลข 3 แล้วได้มีโอกาสมาชม พิพิธภัณฑ์สิ่งมีชีวิตอีกแห่ง คือพิพิธภัณฑ์งูลาดกระบัง หรือชื่อเต็มๆของที่แห่งนี้คือ Siam Serpentarium ใครที่ยังไม่เคยมาให้นึกถึง เรื่อง แฮรี่ พอตเตอร์กับศิลาอาถรรพ์ ตอน กระจกล่องหน นะคะ ที่แฮรี่พูดภาษาพาร์เซลกับงูในตู้กระจกน่ะค่ะ พิพิธภัณ์นี้เป็นบ้านของสัตว์เลื้อยคลานอย่างพี่งูล้วนๆ จะเป็นยังไงนั้นตามผู้เขียนมาได้เลยค่า

เริ่มจากการเดินทางนะคะ ผู้เขียนเดินทางมาด้วยรถยนต์ส่วนตัวค่ะ ช่วงหลังคลายลอคดาวน์ พิพิธภัณฑ์คนไม่พลุกพล่านค่า เยี่ยมชม จอดรถได้สบายๆเลย เลี้ยวเข้ามาจะมีเจ้าหน้าที่มาต้องรับอย่างดี พร้อมยกมือไหว้อย่างสวยงาม แนะนำที่จอดรถบริเวณชั้นใต้ดินให้ด้วย รถจะได้ไม่ต้องจอดกลางแจ้งร้อนๆเนอะ แค่ความประทับใจแรกเข้าก็ดีขนาดนี้แล้วค่ะ 🙂

เมื่อผ่านจุดคัดกรอง วัดอุณหภูมิ พร้อมแสกนแอพไทยชนะแล้ว เราก็ซื้อบัตรเข้าชมพิพิธภัณฑ์ได้ที่เคาท์เตอร์ค่ะ ทางพิพิธภัณฑ์ได้จัดแอลกอฮอล์เจลล้างมือไว้ตามจุดเพื่อยับยั้งการแพร่ระบาดโรค Covid – 19 ด้วยค่ะ

ลงชื่อเมื่อซื้อบัตร แต่ละรอบการจัดแสดง ทางพิพิธภัณฑ์จำกัดผู้เข้าชมค่ะ ผู้เขียนได้เข้าชมในรอบ 10 โมง 35 นาที

ใบแนะนำ กิจกรรมโซนต่างๆของพิพิธภัณฑ์ บัตรเข้าชมงาน และสติกเกอร์สีเขียวสำหรับแปะเสื้อระบุผู้เข้าชมค่ะ

ระหว่างรอเข้าชมงาน มาชมบรรยากาศของโถงพิพิธภัณฑ์กันค่ะ มองไปด้านบนเพดานห้องโถง จะพบกับกระดูดงูขนาดใหญ่ จัดแสดงอยู่ด้านบน ถึงจะเป็นสัตว์เลื้อยคลาย กายภาคภายในของพี่ๆงูก็มีกระดูกอยู่ด้านใน นึกถึงสมัยเป็นนักเรียนที่ทำรายงานเข้าเล่มกระดูกงูส่งคุณครูเลยค่ะ

โซนเรียนและเล่นให้น้องๆหนูๆได้มีกิจกรรมระหว่างรอเข้าชมงาน ตกแต่งด้วยว่าวงูดูน่ารักสีสันสดใส สะท้อนวัฒนธรรมเรียนรู้จากการเล่นของเด็กไทยได้เป็นอย่างดี

เกมบันไดงู บอร์ด เกมส์ยอดฮิตสมัยผู้เขียนเป็นเด็ก ทอยลูกเต๋า ฝึกทักษะการใช้คณิตศาสตร์ เด็กๆสมัยนี้ก็เห็นเล่นกันอยู่นะ 🙂

10 โมง 35 นาที ได้เวลาเข้าชมงานแล้วค่ะ ผู้เข้าชมงานตามรอบจะเริ่มมาต่อแถว เข้าไปสู่ไข่ของงู เพื่อทดลองประสบการณ์การเป็นลูกงูกัน

ภายในงานจะจัดแสดงความรู้ต่างๆเกี่ยวกับงู ไม่ว่าจะเป็นการเลื้อยเคลื่อนไหว การรัด การย่อย การขับถ่าย หรือ การสืบพันธุ์ เป็นต้น เราได้เห็นมุมมองของการเป็นงู สิ่งต่างๆ สภาพแวดล้อมที่งูมองเห็น

พอผ่านประสบการณ์ทดลองการเป็นลูกงูแล้ว เราก็จะได้ไปพบกับงูเป็นๆ หลากหลายสายพันธุ์ ทั้งที่ไม่มีพิษ มีพิษปานกลาง และมีพิษมาก จากส่วนต่างๆของโลก ที่อาศัยอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่ต่างกัน ในโซน Snake Planet ค่า

ภายใน Snake Planet จะจัดแสดงงูมากมายเลยค่ะ มีวิทยากรคอยบรรยายให้ความรู้ตลอด น่าสนใจมาก ควรแค่แก่การมาหาความรู้เพิ่มเติม รอบนี้ผู้เขียน นำภาพของ ราชาแห่งงู เจ้า King Cobra หรืองูจงอาง งูมีพิษขนาดใหญ่ เป็นงูพิษที่มีขนาดยาวที่สุดในโลก รับประทานงูชนิดอื่นเป็นอาหาร โหดสุดๆไปเลยล่ะค่ะ

บังเอิญผู้เขียนได้มาเจองูกินไข่แกนส์ลอกคราบพอดีเลยค่ะ เป็นการเติบโตอย่างหนึ่งของเขาในตู้กระจกแห่งนี้เลย ยังมีงูสายพันธุ์ต่างๆที่น่าสนใจอีกมากมาย เช่น อนาคอนด้าชื่อดัง ที่ได้เป็นดาราหนังฮอลลีวูด มาจัดแสดงในพวกเราได้เห็นด้วยตา ควรค่าแก่การเข้าชมมากค่ะ

เมื่อตื่นตาตื่นใจไปกับโซนแสดงงู หลากหลายสายพันธุ์ ให้ได้เก็บเกี่ยวความรู้และประสบการณ์เต็มอิ่มกันแล้ว เราก็มาต่อในส่วนของการจัดแสดงโชว์กันค่ะ

ในส่วนของการแสดงโชว์ช่วงนี้ จะเป็นหมองูมาแสดงการจับงู การรีดพิษงูให้ผู้ชมดู การแสดงมีความเสี่ยงอันตรายถึงชีวิต หมอดูมีการฝึกมาจนเชี่ยวชาญ ไม่ควรลอกเลียนแบบนะคะ เมื่อการแสดงของหมองูจบแล้ว หากเรายังชมสวนงูไม่เต็มอิ่ม ก็ย้อนกลับไปชมได้อีกด้วยค่ะ หากเต็มอิ่มแล้ว สามารถออกไปหาที่นั่งพักผ่อน ของวานทาน หรือ ถ่ายรูปกับพร๊อบประกอบสถานที่แบบงูๆได้ค่ะ

ก่อนจะขับรถกลับ หากรู้สึกหิว อยากหาอะไรลองท้อง ทางพิพิธภัณฑ์จะมีโซน Naka Corner Coffee & Bakery ไว้ให้ฝากท้องด้วยค่ะ

ทางผู้เขียนเข้าชมพิพิธภัณฑ์รอบ 10 โมง 35 นาที ชมงานเสร็จก็ราวๆเที่ยง ก้ต้องจัดหามื้อใหญ่ เพราะกองทัพต้องเดินด้วยท้องค่ะ ทางพิพิธภัณฑ์มีบริการแนะนำร้านอาหารโซนลาดกระบังให้ด้วยค่ะ มีความใส่ใจในรายละเอียด Extra mile service กันไปเลย เพราะฉะนั้น 10 คะแนน ให้ Siam Serpentarium! สำหรับการบริการที่น่าประทับใจตั้งแต่เลี้ยวรถเข้ามา วิทยกรแนะนำอธิบายให้ความรู้ การแสดงโชว์ที่น่าสนใจ ความสะอาด การดูแลเหล่างูในพิพิธภัณฑ์ แม้กระทั่งแนะนำสถานที่รับประทาน บริเวณใกล้เคียงค่ะ

มาสัมผัสประสบการ์ดีๆ พร้อมความรู้ใหม่ๆได้ที่

Siam Serpentarium 969 ถนนหลวงแพ่ง เขตลาดกระบัง กรุงเทพฯ 10520 ประเทศไทย

การเดินทาง

1. โดยรถยนต์ส่วนตัว
2. แท็กซี่มิเตอร์
3. รถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิ้ง สถานีลาดกระบัง ออกทางออกที่ 2 และต่อแท๊กซี่มิเตอร์

สำหรับข้อมูลและรูปภาพเพิ่มเติม สามารถกดอ่านได้ที่ เว็บไซต์ http://siamserpentarium.com/th/