พอสอบข้อเขียนผ่านแล้ว จะมีสิทธิ์สอบขับรถจริง ถ้าสามารถสอบผ่านภายใน 6 เดือนจะไม่ต้องสอบข้อเขียนใหม่ แต่เอกสารจะต้องเตรียมมาเหมือนเดิมทุกครั้งและเสียค่าสอบครั้งละ 2,550 เยนทุกครั้งที่มาสอบ
โดยลำดับขั้นตอนประมาณนี้
09:30 จ่ายเงิน 2,500 เยนที่ช่อง 13 เอาสแตมป์แปะใบสมัครสอบ แล้วยื่นเอกสารที่ตะกร้าช่อง 2 (ทุกครั้งที่มาสอบ ไม่ว่าจะผ่านข้อเขียนแล้วหรือไม่ก็ตาม)
10:00-12:00 รอตรวจเอกสาร (ต่อให้ไม่ต้องสอบข้อเขียนแล้วก็ต้องมาตรวจแบบนี้นะคะ)
12:50 Standby
13:00 เรียกเช็คชื่อ
13:30 เริ่มสอบ มีรถประมาณ 2-3 คัน
14:00-14:30 นิดๆประกาศผล เจ้าหน้าที่เรียกชื่อทีละคน
ถ้าผ่านเดินไปจ่ายเงิน 2,050 เยน ที่ช่อง 13 หลังจากนั้นเดินไปกดรหัส 4 หลักที่ตู้อัตโนมัติ (เก็บไว้ใช้ตอนมาต่ออายุค่ะ) แล้วรอเจ้าหน้าที่อธิบายเพิ่มเติม ถ่ายรูป พร้อมทำใบขับขี่ให้เลย รอรับที่ชั้น 2 ไม่ต้องไปไหน ไม่จำเป็นต้องใช้อินคัง ใช้การเซ็นชื่อรับใบขับขี่ได้ค่ะ
แต่ถ้าไม่ผ่านรอเรียกชื่อไปรับเอกสารคืนและจองวันสอบถัดไป
ถ้าเพิ่งมาสอบครั้งแรกจะอธิบายวิธีการสอบ อธิบายเส้นทางขับโดยละเอียด
- ห้ามชน (ถ้าคิดว่าจะชนให้หยุดรถ “เช็คความปลอดภัย กระจกหลัง กระจกข้าง หันไปมอง ทั้งซ้ายและขวา ก่อนจะถอย ไม่งั้นก็ตกเหมือนกัน)
- ห้ามไม่รักษากฎจราจร
- ห้ามขับชิดผิดเลน
เช็คทางที่ต้องขับดีๆ ขับช้าๆ จอดให้สนิทตรงจุดที่ต้องจอด มองซ้าย-ขวา-หลังดีๆ ไม่ต้องรีบเปลี่ยนเลนเพื่อเลี้ยวขวา ให้กะ 30 เมตรให้ได้
ถ้าขับแล้วกลัวจะไม่พ้นให้ถอยหลัง ขยับได้ไม่เกิน 4 ครั้ง (S curve 4 ครั้ง, Crank 4 ครั้ง)
ตอนสอบจะมีคนที่มาสอบนั่งข้างหลังไปด้วย พอขับครบกลับมาจอดที่เดิมแล้ว จะให้คนที่มานั่งไปด้วยลงไปรอข้างนอกก่อนจะให้คำแนะนำว่าที่ขับมาพลาดอะไรไปบ้าง โดยที่หลังจากสอบขับรถเสร็จแล้ว ให้เดินกลับมารอประกาศผลพร้อมกันที่ช่อง 5 ตึกที่ยื่นเอกสารหลังจากทุกคนสอบเสร็จ
วิธีสอบขับเหมือนจะดูไม่ยาก แต่ถ้าไม่ได้เข้าใจวิธีการขับรถและทฤษฎีการขับรถที่ถูกต้องตามหลักของคนญี่ปุ่นแล้ว จะสอบให้ผ่านไม่ง่ายเลย ที่สำคัญคือนอกจากความตื่นเต้นจะพังทุกอย่างแล้ว ถ้าจังหวะขับรถของคุณยังไม่ถูกต้องผู้คุมสอบจะไม่ให้คุณผ่านง่ายๆแน่นอน 70 คะแนนคือผ่าน แต่การที่จะทำให้การขับรถโดนหักคะแนนไม่เกิน 30 คะแนนไม่ใช่เรื่องง่ายๆนะคะ
ลองศึกษาวิธีการสอบได้จากเอกสารแนบด้านล่าง
ถ้าสนใจอยากรู้ว่าทำไมสอบใบขับขี่ไม่ง่าย ลองอ่านกระทู้นี้ของพันทิพย์ “แชร์ประสบการณ์การเรียนขับรถ+ทำใบขับขี่ที่ญี่ปุ่น” อาจจะทำให้มองภาพออกมากขึ้น หรือไล่ดูคลิปใน playlist นี้จะยิ่งเห็นภาพ
ก่อนที่จะไปสอบขับรถควรศึกษาวิธีการขึ้นรถ ออกรถ ขับรถ อย่างละเอียด แค่ขับรถได้แต่ถ้าขับไม่ปลอดภัยก็ไม่ผ่านง่ายๆนะคะ
ความเข้าใจส่วนตัวที่สำคัญที่สุดของการสอบขับนอกจากห้ามขับชน ขับผิดกฎจราจร นั่นก็คือจังหวะการเช็ค (確認) ห้ามรีบทุกจุด ถ้ายังไม่เช็คความปลอดภัยให้เรียบร้อยคือควรต้องชะลอรถก่อน ไม่ว่าจะเปลี่ยนเลน เลี้ยว ออกตัว (เหยียบเบรคกะทันหันก็ตกนะ)
ความยากคือต้องเปลี่ยนจังหวะ วิธีขับให้ได้ เช่น ถ้าจะเลี้ยวขวา ต้องเริ่มจาก มองกระจกหลัง มองกระจกข้าง เปิดไฟเลี้ยว (เปิดไฟให้ครบ 3 วินาที) มองกระจกหลังอีกครั้ง มองกระจกข้าง หันไปมองมุมอับ แล้วหันกลับมามองข้างหน้า ถึงจะค่อยหักพวงมาลัยให้รถเกาะเส้นกลางถนน (กันจักรยานยนต์มาแทรกเวลาจะเลี้ยว ซึ่งหมายถึงห่างจากเส้นกลางถนนไม่เกิน 1 เมตร) พอจะถึงจุดเลี้ยวต้องชะลอ มองกระจกหลัง กระจกข้าง มองมุมอับ มองซ้ายมองขวา หน้าตรง หักพวงมาลัย ชะลอดูรถทางตรง ดูคนข้าม เข้าถนนเส้นใหม่
ถ้าจะเลี้ยวซ้าย เริ่มจากมองกระจกหลัง มองกระจกข้าง เปิดไฟเลี้ยว มองด้านหน้าหักพวงมาลัยเกาะด้านซ้ายของเลน (กันจักรยานยนต์มาแทรกเวลาเลี้ยวเช่นกัน ฉะนั้นควรห่างจากขอบถนนไม่เกิน 1 เมตร) พอจะถึงจุดเลี้ยว มองกระจกหลัง มองกระจกข้าง หันไปมองมุมอับ หันมามองข้างหน้า ค่อยๆหักพวงมาลัยเลี้ยวซ้าย
ก่อนถึงแยกทุกแยกจะต้องเช็คความปลอดภัยก่อนถึงแยกทุกแยก (ถนนในเมืองส่วนใหญ่ของญี่ปุ่นจึงมักจะจำกัดความเร็วอยู่ที่ 50 กม/ชั่วโมง เพราะแยกเล็กแยกน้อยเยอะ)
ตอนเช็คความปลอดภัยคือถ้าหยุดเช็คได้ให้หยุดเช็คจนมั่นใจแล้วค่อยออกตัว หรือชะลอแบบปล่อยรถไหลไม่เหยียบคันเร่งแล้วดูซ้ายขวาก่อนถึงแยก
VDOs สอนขับรถที่ควรศึกษาโดยละเอียด
ทริคที่ได้จากการไปสอบขอสรุปเป็นข้อๆดังต่อไปนี้นะคะ
- พยายามควบคุมสติ ไม่ให้ตื่นเต้น (บอกเลยว่ายากในครั้งแรก 😂😂😂)
- จำเส้นทางที่จะต้องขับให้ได้โดยละเอียด เช่น ต้องเปลี่ยนเลนตรงไหน เปิดไฟเลี้ยวตรงไหน มีแยกที่ต้องเช็คตรงไหนบ้าง จะได้รู้ว่าควรขับเร็วแค่ไหน และเลี้ยวแล้วจะต้องชิดซ้ายหรือชิดขวาของเลนเลย
- อ่านคู่มือให้เข้าใจมากที่สุดที่จะทำได้
- ซ้อมขับในหัวโดยละเอียดทีละขั้นตอน ตั้งแต่เดินข้ามถนนมา ก่อนขึ้นรถ ขึ้นรถยังไง ไปจนถึงขับกลับมาจอดต้องทำอะไรบ้าง
- จังหวะเปิดไฟเลี้ยวและเช็คความปลอดภัยสำคัญมากที่สุด (กระจกหลัง กระจกข้าง เปิดไฟเลี้ยว หันไปมองมุมอับ “หันหน้ามองตรง” ก่อนหักพวงมาลัยเสมอ หรือจะปล่อยเบรคแล้วขับต่อหน้าจะต้องมองตรงหลังจากที่ตรวจเช็คความปลอดภัยครบทุกทิศทางแล้ว)
- ตอนจะเปลี่ยนเลนหรือชิดซ้าย ชิดขวาสุด เพื่อเลี้ยว จะต้อง 1 มองกระจกหลัง 2 มองกระจกข้าง 3 เปิดไฟเลี้ยว 4 มองมุมอับ แล้วมองซ้ำทั้ง 3 จุดอีกที (คือต้องเปิดไฟเลี้ยวไว้ 3 วินาทีแล้วถึงจะหักพวงมาลัยได้) และต้องหักพวงมาลัยตอนหน้าตรงเท่านั้น
รอบที่สอบผ่านคือทำทุกอย่างเหมือนหุ่นยนต์เลย ทำทุกอย่างแบบ 1 2 3 4 ทีละขั้นตอน จะเปลี่ยนเลน จะเลี้ยวรถ คือทำทุกอย่างเป็นจังหวะ 1 2 3 ทำทุกอย่างช้าๆ ไม่รีบ ไม่ต้องคิดว่าที่เคยขับรถมาขับมายังไง ลืมไปให้หมดแล้วทำตามเกณฑ์ของญี่ปุ่น คนคุมสอบเป็นตำรวจ เป๊ะมาก เก็บทุกเม็ดจริงๆ นั่งข้างๆ มือพร้อมขีดหักคะแนนแบบฟาดๆตลอดเวลาค่ะ
คำศัพท์
คันจิ | คำอ่าน | ความหมาย | Other |
運転免許 | うんてんめんきょ | ใบขับขี่ | |
外国免許 | がいこくめんきょ | ใบขับขี่ของต่างประเทศ | |
国際免許 | こくさいめんきょ | ใบขับขี่ระหว่างประเทศ | |
外(国)免(許)切り替え | がい(こく)めん(きょ)きりかえ | เปลี่ยนใบขับขี่ต่างประเทศมาเป็นใบขับขี่ญี่ปุ่น | |
合図 | あいず | ไฟเลี้ยว | ウィンク (wink) |
右 | みぎ | ขวา | |
左 | ひだり | ซ้าย | |
上 | うえ | บน | |
下 | した | ล่าง | |
確認 | かくにん | ตรวจสอบ เช็ค | |
安全確認 | あんぜんかくにん | ตรวจสอบความปลอดภัย | |
速い | はやい | เร็ว | |
遅い | おそい | ช้า | |
タイミング | Timing จังหวะ, จังหวะเวลา | ||
ルームミラー | กระจกมองหลัง | ||
サイドミラー | กระจกมองข้าง | ||
目視 | もくし | ใช้ตามอง | |
曲がる | まがる | เลี้ยว | |
真すぐ | まっすぐ | ตรงไป | |
止める | とめる | จอด | |
止まれ | とまれ | หยุด (ป้ายคำสั่งให้หยุด) | |
踏切 | ふみきり | ทางรถไฟ | |
駐車 | ちゅうしゃ | การจอดรถ | |
停車 | ていしゃ | การหยุดรถ (ไม่เกิน 5 นาที) | |
駐車場 | ちゅうしゃじょう | ที่จอดรถ | |
横断歩道 | おうだんほどう | ทางคนข้าม | |
信号 | しんごう | สัญญาณ(ไฟจราจร) | |
赤 | あか | แดง (ไฟแดง) | |
黄色 | きいろ เ | หลือง (ไฟเหลือง) | |
青 | あお | ฟ้า, เขียว (ไฟเขียว) | |
ブレーキ | เบรค | ||
交差点 | こうさてん | ทางแยก สี่แยก | |
合格 | ごうかく | สอบผ่าน | |
不合格 | ふごうかく | สอบไม่ผ่าน | |
予約 | よやく | การจอง | |
アドバイス | คำแนะนำ |
ท้ายที่สุดขอให้ทุกคนโชคดีค่ะ 🙂
みぎ คือขวา และ ひだり คือซ้ายครับ
ขอบคุณมากค่ะ เพิ่งเห็นว่าเขียนภาษาไทยสลับช่องเลยค่ะ