เรื่องเล่าจากพ่อในตอนนี้ คือ มุมมองของคนเป็นครูที่เกษียณอายุราชการมาเรียบร้อยแล้วนะคะ ทำให้นึกถึงความรู้สึกถึงกิจกรรมที่โรงเรียนไทย ในสมัยที่ผู้เขียนเป็นเด็กเลยค่ะ ส่วนเรื่องของเด็กหญิงสายเสมอจะเป็นคนแบบไหน เราลองไปอ่านดูกันเลยค่ะ
วิศวกรสร้างคน ก็คือครู ครั้งหนึ่งยังจำได้ไม่ลืม มีลูกศิษย์เป็นเด็กหญิง ตัวเธอดำ ยิ้มฟันขาว สนุกสนานร่าเริง เพื่อนจะแกล้ง ครูจะบ่น เธอจะยิ้มตลอด เหมือนเด็กที่ไม่เคยมีความทุกข์ แต่เธอจะมาโรงเรียนสายทุกวัน หลังกิจกรรมหน้าเสาธง เคารพธงชาติ สวดมนต์ ไหว้พระ ครูเวรอบรมหน้าแถว เข้าห้องเรียนแล้ว เธอก็จะมาปรากฎตัว พร้อมกับเสียงโห่ฮาของทุกคนในห้องเรียน นี่คือเด็กหญิงสายสมร ที่จะมีความสุขทุกครั้งที่เพื่อนๆโห่ฮาเธอ จนทุกคนเปลี่ยนชื่อให้เด็กหญิงสายสมรว่า เด็กหญิงสายเสมอ สอบถามได้ความว่าเธอตื่นสายและสำคัญมากเธอไม่เคยเห็นความสำคัญของกิจกรรมหน้าเสาธง วันหนึ่งครูอบรมเธอพร้อมกับนักเรียนทุกคนในห้องเรียน เพื่อนของครูเคยพูดว่าอิจฉาคนที่เป็นครู ที่ตอนเช้าได้ทำกิจกรรมหน้าเสาธงทุกวัน อาชีพอื่นไม่มีกิจกรรมหน้าเสาธง เราต้องภูมิใจที่ได้ปฏิบัติทุกวัน ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา เด็กหญิงสายเสมอก็หายไป เพราะเธอตระหนักถึงความสำคัญของกิจกรรมหน้าเสาธง เธอกลับมาเป็นเด็กหญิงสายสมรที่เพื่อนๆทุกคนยอมรับ
กิจกรรมหน้าเสาธงของโรงเรียน จะยังคงจำเป็นและสำคัญหรือไม่สำหรับยุคสมัย ทัศนคติที่เปลี่ยนไปตามกาลเวลา แต่ไม่ว่าจะยุคสมัยไหน หรือจะปฏิบัติกับผู้ใด เรื่องการให้ความสำคัญกับเวลา และความรับผิดชอบ ตรงต่อเวลา ในทัศนะของผู้เขียนย่อมควรให้ความสำคัญเสมอค่ะ ไม่ควรจะเล่นบทเป็นคุณนายสายเสมอให้ผู้อื่นต้องรอ เวลามีกิจใดๆร่วมกันค่ะ