ไฟลท์ล่าสุดก่อนปิดเทอมใหญ่ (It’s been so long being away from aircraft)

Travel2 ความเห็น บน ไฟลท์ล่าสุดก่อนปิดเทอมใหญ่ (It’s been so long being away from aircraft)

ไฟลท์ล่าสุดก่อนปิดเทอมใหญ่ (It’s been so long being away from aircraft)

“‘Cabin crew prepare for landing” เสียงของ ผู้จัดการเที่ยวบินประกาศ ให้สัญญาณลูกเรือประจำเที่ยวบินขาเข้ากรุงเทพ ที่เดินทางมาจากปารีส ประเทศฝรั่งเศส เตรียมตัวนั่งท่า brace for impact พร้อมกับ ทำ silent review ในขณะที่เครื่องบินกำลังจะล้อแตะพื้นที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ในช่วงเช้ามืดตามเวลาท้องถิ่นประเทศไทย…

เป็นเวลานาน ถึง 4 เดือนแล้วที่ผู้เขียน ไม่ได้ขึ้นไปปฏิบัติหน้าที่บนฟากฟ้า ในฐานะพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินคนหนึ่ง แต่ก็ยังคงจำความรู้สึกของไฟลท์ล่าสุดที่ได้ไปบินได้ จนกระทั่งรับกระเป๋า ขับรถออกมาจากศูนย์ปฏิบัติการ กลับมากักตัวตามระเบียบการควบคุมโรค

การระบาดของ covid19 ส่งผลกระทบต่อหลายสาขาอาชีพ ไปทั่วโลก ธุรกิจการบินก็เช่นกัน แม้จะผ่านมาหลายเดือนของการระบาด จนประเทศไทยมีข่าวคราวว่าจะเข้าสู่ระรอก 2 แล้ว สายการบินที่ผู้เขียนทำงานอยู่ยังไม่สามารถกลับไปทำการบินได้ จนช่วงเวลาที่เขียนบันทึกนี้ ผู้เขียนยังคงคิดถึงสมัยที่ได้ทำงานที่รัก คราวนี้จะมาเล่าประสบการณ์ทำงานไฟลท์สุดท้าย (หวังว่าจะไม่ท้ายสุด) ก่อนปิดเทอมใหญ่ให้ฟังค่ะ บทความนี้อาจจะดีเลย์ไปหลายเดือน แต่ก็ยังเขียนนะ กรั่กๆ

ไฟล์สุดท้ายของผู้เขียน คือ ปารีส ค่ะ ก่อนปิดเทอม ก็ได้ทำไฟลท์ยาวไฟลท์หนึ่งเลย ไฟลท์ขาเข้าปารีสจาก กรุงเทพ ผู้โดยสารชาวฝรั่งเศสเดินทางกลับเต็มลำเลยค่ะ ช่วงเวลาตอนนั้นถ้ายังจำกันได้ เป็นช่วงที่ประเทศต่างๆกำลังเข้าสู่ช่วงปิดประเทศ ไฟลท์บินเส้นทางต่างๆเริ่มถอดการบิน เหตุจากคุณโกวิทย์นั่นเอง ตอนนั้นชาวต่างชาติที่จะขึ้นเครื่องเพื่อเดินทางกลับประเทศ ต้องไปยืนเกาะเคาท์เตอร์เชคอิน เพื่อสแตนบายรอเรียก ว่าใครจะได้สิทธิ์ขึ้นเครื่องกลับประเทศ ขาออกจากกรุงเทพ ก็จะมีความอบอุ่น และยังคงสนุกกับการให้บริการอยู่ค่ะ ^^

เมื่อเครื่องบินถึงปารีส คราวนี้ลูกเรือเดินไปขึ้นรถบัสไปโรงแรม ผ่านทางสนาม ซึ่งปกติจะมีรถบัสมารับถึงประตูเครื่องบินหากมาลงที่ปารีสค่ะ ด้วยสถานการณ์ที่เปลี่ยนไปทำให้สนามบินแห่งนี้เงียบเหงา ไม่คึกคักดังเช่นปกติที่มักจะเป็น พวกเราชาวลูกเรือ ก็ต้องเข้าไป quarantine ในห้องพัก ซึ่งปกติจะมีการนัดกันไปทานข้าว หรือใครอยากไปไหนก็ได้ หรือพักผ่อนตามอัธยาศัย เวลาที่เราลงนอนตามสถานีต่างๆ

โรงแรมที่พักที่สายการบินใช้บริการที่สถานีปารีส คือ Mercure Paris Roissy CDG มีขั้นตอนการควบคุมโรคที่ดีค่ะ แม้แต่คุณกระต่ายที่ แผนกต้อนรับยังใส่หน้ากากอนามัย และถุงมือยางเลย ^^ พวกเรามาถึงก็ผ่านการคัดครองโรควัดไข้ เชคอินเข้าโรงแรม ต่อแถวกันรับคีย์การ์ด และแยกย้ายเข้าห้องพักของตัวเอง

บรรยากาศด้านนอกรอบนี้อากาศ ช่วงเดือน มีนาคม สดใสค่ะ น่าเข้าเมืองไปปิคนิคในสวน ชมหอไอเฟล ถ่ายภาพกับพิพิธภัณฑ์ลูฟ เลือกซื้อเวชสำอางฝรั่งเศสที่ร้านยา แต่โรคระบาดใหญ่ได้อุบัติขึ้นมา… ผู้เขียนเลยได้แต่เปิดหน้าต่างทักทาย Holiday Inn ที่อยู่ฝั่งตรงข้าม

ป้ายขอความเป็นส่วนตัวของโรมแรม เป็นรูปเจ้าหมาปั๊กนอนหลับ มีความน่ารักน่าเอ็นดู แต่ยังคงแสดงให้เห็นการเข้าสู่ยุคของสถานกักตัวในโรงแรมได้เริ่มต้นขึ้นในช่วงเวลาการระบาดของโควิด 19

เจอรูปเจ้าหมาปั๊กหลับหน้าประตูไปแล้ว มาเจอตุ๊กตาน้องหมาปั๊กในห้องต่อ ไว้สำหรับเป็นเพื่อนแก้เหงาบ้างละกัน ^^ น้องหมาปั๊กตัวนี้ผู้เขียนได้มาจากประเทศไหนเอ่ย ให้ทาย อิอิ


ไฟล์สุดท้ายก่อนปิดเทอมใหญ่ บ่งบอกชัดเจนเลยจากอาหารแห้งน้ำดื่มที่ขนมาจากเมืองไทย เพื่อประทังชีวิต ว่าสถานะทางการเงินหลังจากนี้จะเปลี่ยนไปมากแค่ไหน แต่ชีวิตก็ยังคงต้องดำเนินต่อไปล่ะเนอะ … เพื่อรอวันท้องฟ้ากลับมาเปิดอีกครั้ง

นอนดูเน็ตฟลิกจบไปไม่กี่ตอน หลับไปอีกหนึ่งคืน ก็ใกล้เวลาทำไฟลท์สุดท้าย ขาเข้ากรุงเทพแล้ว ถึงเวลา อาบน้ำแต่งตัว เตรียมข้อมูลก่อนไปบิน ไฟลท์นี้ผู้โดยสารขาเข้าประเทศไทย มีเพียงหลักหน่วยเท่านั้น เนื่องด้วยข้อจำกัดของเอกสาร fit to fly เพื่อการควบคุมโรคระบาด

แต่งหน้าแต่งตัวพร้อม สัมภาระก็พร้อมค่ะ ขอยังไม่บอกลา ชีวิตลงนอนที่ต่างประเทศในฐานะลูกเรือหรอกนะ แต่ขอบอกเพียงว่าไว้มาพบกันใหม่ 🙂

เมื่อเวคอัพคอล ดัง คือ สัญญาณบอกว่า อีก 1 ชั่วโมงล้อรถบัสจะหมุนไปสนามบินแล้วนะ ลงมาคืนคีย์การ์ด รอบรีพจากกัปตันและหัวหน้าเที่ยวบิน รอบนี้รู้สึกเงียบเหงาลงไปถนัดตาเลย นักบินลูกเรือบนไฟลท์ต่างถ่ายรูป บรรยากาศ ลอบบี้โรงแรมไว้เป็นที่ระลึก ก่อนกลับกรุงเทพ หลายคนเลือกที่จะถ่ายรูปกับ เจ้ารถคลาสสิค

รถบัสมาถึงแล้ว พร้อมพาเราออกไปปฏิบัติหน้าที่บนฟากฟ้า เราได้ออกมาทักทาย Holiday Inn ฝั่งตรงข้ามอีกครั้ง เป็นอีกวันที่อากาศสดใสที่สถานีปารีส

รถบัสพาเรามาถึงแล้ว สนามบินที่ความวุ่นวายมลายหายไปสิ้น ทีมชาวฟ้าโหลดกระเป๋าใบใหม่ ด้านข้างมีกลุ่มคนไทยจำนวนน้อยที่เข้ามาเชคอิน พวกเขาเป็นนักสู้ที่ชนะในการทำเรื่อง และจัดการเอกสารเพื่อที่จะกลับบ้าน ผู้เขียนทักทายในใจ ว่ายินดีต้องรับกลับบ้านค่ะ ไว้ไปกล่าวต้อนรับออกเสียงอีกทีหน้าประตูเครื่องบิน

หลังโหลดกระเป๋าเดินทางใบใหญ่เสร็จ ก่อนออกเดินทาง ทีมนักบิน ลูกเรือ ได้ถ่ายรูปไว้เป็นที่ระลึก ในใจหวังลึกๆว่าจะมีโอกาสกลับมาปฏิบัติหน้าที่ และลงนอนที่สถานีแห่งนี้ใหม่อีกครั้ง

ร้านรวงต่างๆ แบรนด์ดังของประเทศแห่งแฟชั่น ที่เคยคราคร่ำไปด้วยผู้คน วันนั้นมีเพียงแค่ประตูเหล็กปิดไว้เท่านั้น พวกเราเลยเดินตามกันตรงไป เกตขึ้นเครื่องบิน

จำนวนผู้โดยสารที่เราพากลับไทย ไฟลท์นี้เหลือเพียงหลักหน่วย การเตรียมงานบนพื้นเลยเสร็จอย่างรวดเร็ว จึงพอจะเหลือเวลามองออกไปนอกหน้าต่าง ได้เห็นกับ เครื่องบินสายการบินแห่งชาติฝรั่งเศส จอดนิ่งอยู่

หลังได้กล่าวทักทาย ต้อนรับและดูแลผู้โดยสารจำนวนหยิบมือเรียบร้อย เครื่องบินใกล้จะ ออกเดินทางกลับ สภาพห้องโดยสาร โล่งลงไปจากปกติอย่างถนัดตา เห็นภาพนี้แล้ว ความรู้สึกตอนนั้นก็น่าใจหายอย่างอธิบายออกมาเป็นคำพูดไม่ถูกเสียเลย….

“‘Cabin crew prepare for landing” เสียงของ ผู้จัดการเที่ยวบินประกาศ ให้สัญญาณลูกเรือประจำเที่ยวบินขาเข้ากรุงเทพ ที่เดินทางมาจากปารีส ประเทศฝรั่งเศส เตรียมตัวนั่งท่า brace for impact พร้อมกับ ทำ silent review ในขณะที่เครื่องบินกำลังจะล้อแตะพื้นที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ในช่วงเช้ามืดตามเวลาท้องถิ่นประเทศไทย… ชีวิตในแบบใหม่ที่มาเร็วซะยังไม่ทันจะตั้งตัว ความรู้สึกข้างในมันช่างเคว้งคว้าง จากการเปลี่ยนแปลงที่เราจะต้องสู้ ถึงแม้ประตูบานหนึ่งจะปิดไป ไม่ว่าจะเป็นการปิดชั่วคราว หรือว่าปิดตลอดกาล แต่ผู้เขียนเชื่อว่า ประตูบานอื่นก็เปิดรับเราได้เสมอค่ะ อาจจะต้องลองผิดลองถูกกันบ้าง แต่ก็เป็นช่วงเวลาในการพัฒนาตัวเอง เรียนรู้อะไรใหม่ได้ค่ะ 🙂

มันส์ต้องแชร์
สาวอักษร มีประสบการณ์สอนหนังสือ และผันตัวมาเป็นแอร์ ช่วงพักบินทำกิมจิขาย อยากลองขีดๆเขียนๆ เลยมาเขียนให้ blogmun

2 thoughts on “ไฟลท์ล่าสุดก่อนปิดเทอมใหญ่ (It’s been so long being away from aircraft)

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

Back To Top