ตรวจสุขภาพฟันที่ญี่ปุ่น

บทความLeave a Comment on ตรวจสุขภาพฟันที่ญี่ปุ่น

ตรวจสุขภาพฟันที่ญี่ปุ่น

เดิมทีก่อนโควิดจะมาตั้งใจว่าจะกลับไทยทุกปี กลับไทยไปจะไปตรวจสุขภาพฟันประจำปีทุกครั้ง แต่ตอนนี้คงยากมาก ควรจะต้องเรียนรู้วิธีการใช้ชีวิตที่ญี่ปุ่นแบบครบวงจรน่าจะดีกว่า การไปหาหมอฟันก็นับว่าเป็นอีกหนึ่งความท้าทาย

อันที่จริงตอนท้องอยู่เคยมาใช้สิทธิ์ตรวจสุขภาพฟันตามคำขอร้องของเขต หมอไม่แน่ใจว่าเหงือกอักเสบเพราะท้องอยู่หรืออักเสบเป็นปกติ เลยอยากให้กลับมาตรวจอีกทีหลังคลอด แล้วหมอขูดหินปูนไปให้เมื่อปีที่แล้ว แต่ด้วยโควิดและอะไรอีกมากมายเลยทำให้ผ่านไปปีกว่าๆกว่าจะได้มาหาอีกครั้ง

พอมาปีนี้ตั้งใจมาหาหมอฟันเพื่อตรวจสุขภาพประจำปี ก็คิดว่าฟันคงไม่มีปัญหาอะไรมาก เปิดดูคันจิไปแค่หินปู 歯石 Shiseki เหงือกอักเสบ 歯肉炎 Shiniku-enอะไรแบบนี้ แต่ปรากฏว่าหมอมีประวัติ เจอหน้ากันปุ๊บ ถามว่าลูกเป็นยังไงคลอดมานานแค่ไหนแล้ว 😂😂😂 ตอนแรกก็สตั๊นไปแปบนึง แบบฮะ ถามถึงลูกจริงๆเหรอ คิดว่าฟังผิด 😅😅😅

แล้วหมอก็กลัวว่าเราจะไม่เข้าใจอะไรเลย หมอถามว่านอกจากญี่ปุ่นแล้วพูดภาษาอะไรได้อีก เลยบอกว่าอังกฤษ แล้วหมอเลยเปิด google translate ก็เลยบอกหมออีกทีว่ารู้ภาษาจีนด้วย เห็นคันจิก็รู้ความหมายแล้ว พิมพ์คันจิให้ดูก็พอ😆😆😆 แต่เอาจริงๆคำง่ายๆก็ฟังรู้เรื่องแล้วนะ  แต่ก็ไม่ได้บอกหมอไป (จะว่าไปจากครั้งที่แล้วก็ผ่านมาปีกว่าๆแล้วนะ นี่ก็ว่า relax กับการฟังภาษาญี่ปุ่นในชีวิตประจำวันขึ้นมาก ต่างกับตอนมาตรวจครั้งแรกมากๆ)

คือระหว่างรอหมอก็นั่งอ่านตัวอักษรที่แสดงประวัติเราบนหน้าจอที่อยู่หน้าที่นั่งเรา จะบอกว่ามารักษาครั้งล่าสุกเมื่อไหร่มีช่องแสดงภาพ X-ray ช่องปากครั้งล่าสุด ซึ่งของเราว่างเปล่า

หมอเลยเริ่มต้นบรรยายว่าจะต้องไปถ่ายรูปช่องปากนะ ใช้คำว่า レントゲン写真を撮ります (หมายถึง ถ่ายภาพX-ray ซึ่งหมอก็ชี้วนๆรอบปากไปด้วย คาดว่าชื่อเต็มคือ 口腔内写真【こうくうないしゃしん Koukū-nai Shashin】ตามที่ไปศึกษาเพิ่มเติมภายหลัง) เพราะตอนนี้ไม่ได้ท้องแล้ว ซึ่งก็เข้าใจแล้วแหละ (แต่หมอคิดว่าไม่เข้าใจ 😂😂😂) แล้วก็มาตรวจช่องปากอีกที ถึงจะสรุปวิธีการรักษาแล้วก็เริ่มรักษาฟันนะ กำลังจะบอกว่าโอเคค่ะ หมอก็พยายามจะ google translate คำว่าถ่ายภาพ X-ray (レントゲン写真) ซึ่งกูเกิลไม่รู้จักเลยบอกว่าเข้าใจนะ 写真 Shashin (ภาพถ่าย) น่ะ 😅😅😅

ก็จะเป็นห้องเล็กๆแยกสำหรับ X-ray สภาพช่องปาก พอเรียบร้อยก็กลับมาที่เดิมแล้วก็จะมีผลประเมินสภาพฟันประเมินค่าความห่างระหว่างฟันกับเหงือก (ถ้าเข้าใจไม่ผิด 歯周ポケット Hashyū poketto) ด้วยตัวเลข 1-5 แล้วก็จะมีหมอมาตรวจสุขภาพฟันอีกที เพื่อเทียบกับเลขที่เครื่องประเมินออกมาว่าตรงไหม หลังจากนั้นคุณหมอเจ้าของคลินิกจะมาอธิบายว่าฟันเป็นอย่างไร ซึ่งหมอก็จะแจ้งว่าค่าที่ปกติควรจะอยู่แค่ 2-3 แต่ถ้ามากกว่านั้นจะไม่ค่อยดี ซึ่งของเราก็ 3-4 ไปเลยค่า😅😅 ก็ไม่ได้ไปหาหมอฟันปีกว่าๆ ไม่แปลกที่จะมีคราบพลักเกาะอยู่ค่อนข้างเยอะ จนทำให้เหงือกอักเสบ 歯肉炎 (แม่ลูกอ่อนเวลาให้ตัวเองน้อยมาก คิดจะอาบน้ำแปรงฟันแบบพิถีพิถันคือฝันไปเถอะ 😂😂😂) หมอแจ้งว่าไม่ได้มีปัญหาร้ายแรง แต่ควรรักษาให้เรียบร้อยและจะต้องมารับการรักษา 2 ครั้ง โดยครั้งนี้จะนับเป็นครั้งแรก หมอพูดจาดีสุภาพ ฟังง่าย ประทับใจ สมกับที่เสิร์จหาคลินิกทำฟันแถวบ้านแล้วอ่านรีวิวอยู่หลายที่ 😊😊😊

รอบนี้จะเป็นคุณหมอผู้ช่วยเป็นคนรักษาให้ เหมือนจะมีป้ายยาแก้อักเสบ แล้วก็ขูดหินปูน แปรงฟัน ทำความสะอาดร่องฟันอย่างละเอียด ซึ่งครั้งแรกทำเฉพาะฟันล่าง ซึ่งก็ใช้เวลารอบนี้ไปประมาณ 1 ชั่วโมง ใช้สิทธิประกันสังคมที่ญี่ปุ่นต้องจ่ายเอง 30% ครั้งนี้เลยเสียเงินไป ¥3,610 ค่ะ แล้วนัดไปอีกทีหลังจากนี้ 3 อาทิตย์ค่ะ (อัพเดท… ไปรอบที่สองมาแล้วค่ะ ขูดหินปูนฟันบน เก็บรายละเอียด ให้หมอมาตรวจเช็คอีกที รอบนี้เสียเงินไป ¥620 เท่านั้นค่า 😊😊😊)

อ้อ ก่อนจะเข้ารับการรักษาจะต้องกรอกเอกสารอย่างน้อย 2 ฉบับ คือใบสำหรับให้หมอกรอกอาการและการรักษากับแบบสอบถามเกี่ยวกับความเสี่ยงการเป็นโควิด แต่ถ้าเพิ่งมาครั้งแรกจะต้องกรอกประวัติตัวเองและความต้องการที่จะรับการรักษาแบบละเอียด ก็จะถามว่าเป็นอะไรมา อาการเป็นยังไง ต้องการให้ตรวจรักษาแบบไหน รักษาแค่ที่เป็นหรือรักษาให้ทุกอย่างดีไปเลย ค่าใช้จ่ายรับได้แบบไหน ต้องให้ประกันครอบคลุมอย่างเดียว หรือรับค่าใช้จ่ายบางส่วนได้หรือต้องการรับการรักษาที่ดีที่สุดยินดีจ่าย เป็นต้น กับเอกสารว่าเคยรับการฉีดยาเกี่ยวกับโรคไขกระดูกสันหลังหรือเคยรับการรักษาโรคมะเร็งหรือไม่ เนื่องจากอาจจะมีผลต่อวิธีการรักษาฟันหรือยาบางชนิดที่จะใช้ไม่ได้ เป็นต้น

ไม่นับเอกสารมากมายที่ต้องกรอกก่อนเข้ารับการรักษา ก็ประทับใจทุกอย่างเลยค่ะ ความสะอาด บริการ ความน่ารักของบุคลากร และที่สำคัญรู้สึกว่าฟันสะอาดมากกกกกก สะอาดแบบไม่เคยรู้สึกมาก่อนว่าจะสะอาดได้ขนาดนี้ค่ะ ^^

มันส์ต้องแชร์
สาวอักษรเอกจีน พูดเกาหลีที่ถนัดงาน event แต่สุดท้ายกลายมาเป็นแม่บ้านเลี้ยงลูกอยู่ที่ญี่ปุ่น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

Back To Top