ถ้าใครที่ติดตามข่าวสารเกี่ยวกับสถานการณ์โควิดที่ญี่ปุ่น อาจจะพอทราบว่าช่วงนี้เป็นช่วงที่กำลังระบาดรอบ 2 อยู่ โดยเฉพาะในเมืองใหญ่ๆ โดยเฉพาะโตเกียว โอซาก้า นาโกย่า รวมถึงสถานการณ์ที่โอกินาว่าก็เริ่มไม่ค่อยดี แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นที่ญี่ปุ่นคือให้ทุกคนดูแลและระวังสุขภาพตัวเองด้วยตัวเอง เพราะด้านเศรษฐกิจก็ต้องพยายามประคองและดำเนินต่อไป
ที่ญี่ปุ่นจริงๆแล้วจะมีวันหยุดยาวๆทีละ 3-5 วันเป็นระยะๆ แต่ว่าไม่ใช่ทุกบริษัทจะหยุดตามปฏิทินอย่างบริษัทที่สามีทำอยู่จะให้หยุดยาวๆแค่ 2 ช่วง เป็นช่วง golden week (ประมาณต้นเดือนพฤษภาคม) กับช่วง お盆 (โอบ้ง คล้ายๆ เชงเม้ง? เป็นเทศกาลกลับบ้านเคารพบรรพบุรุษ ประมาณนี้) แต่ปีนี้ทั้ง golden week และช่วงโอบ้งก็ไม่ได้ไปเที่ยวไหนกันเป็นพิเศษ แต่ก็สงสารเจ้าตัวเล็กที่แทบไม่ได้ไปไหนเลย ก็เลยลองเสิร์จหาสถานที่ท่องเที่ยวง่ายๆ มีหลังคาหลบร้อนด้วย (ช่วงนี้คนเป็น heatstroke กันเยอะ เพราะอากาศร้อนที่ญี่ปุ่นโหดมากจริงๆ อาจจะเพราะความชื้นสูงมากหายใจลำบาก ยิ่งต้องมาใส่มาส์กระวังโควิดกันอีก จากข่าวช่วงนี้คนที่เป็น heatstroke แบบต้องห้ามเข้า รพ. แค่อาทิตย์แรกของเดือนสิงหาที่เข้าหน้าร้อนจริงๆ ก็ปาไปเกือบ 7,000 คนแล้ว)
ก็เลยดูว่าพาลูกไปพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำในจังหวัดที่อยู่ดีกว่า เป็นพื้นที่ขนาดกลางๆ คนน่าจะไม่แน่นมาก เข้าไปดูเวปไซต์ของพิพิธภัณฑ์ก็เจอว่าตั้งแต่เปิดช่วงโควิดมาคือต้องลงทะเบียนจองช่วงเวลาที่จะเข้าชมด้วย ซึ่งก็เป็นเรื่องที่ดีที่จะทำให้เราพอมองเห็นภาพว่าช่วงไหนที่คนจะไปเยอะ เพราะจำกัดจำนวนคนเข้าเป็นช่วงเวลา ค่าเข้าชมพิพิธภัณฑ์ ผู้ใหญ่คนละ ¥650 ส่วนเด็กเล็กที่ยังไม่เข้าประถมไม่เสียค่าเข้า
ในตึกพิพิธภัณฑ์จะมีโซนนิทรรศการกับโซนที่เป็น aquarium ถาวร ซึ่งนิทรรศการที่ไปมาเป็นสัตว์อันตราย เช่น จระเข้ แมลงป่อง ปลาปักเป้า งู ปลาไหลไฟฟ้า คางคกที่มีพิษ เป็นต้น ส่วน aquarium มีปลาชนิดต่างๆในแม่น้ำของจังหวัดโทจิกิ มีปลาที่คนญี่ปุ่นทานเป็นอาหาร ปลาหายากชนิดต่างๆในญี่ปุ่น และโซนที่ใหญ่ที่สุดคือโซนป่าอเมซอน มีปลาตัวยักษ์ขนาดเกือบ 2 เมตรจากแม่น้ำอเมซอนมาจัดแสดงด้วย น่าจะเป็นโซนที่คนใช้เวลาดูนานที่สุดแล้ว เพราะมีส่วนที่ทำเป็นอุโมงค์ด้วยค่ะ
สถานที่จัดแสดงเป็น indoor แต่ว่าไม่ได้เปิดแอร์แบบเย็นฉ่ำ เน้นเปิดหน้าต่างให้อากาศถ่ายเท แต่มีอาคารไว้กันแดดร้อน มีแอร์เคลื่อนที่ตั้งไว้บ้างบางจุด ให้สอดคล้องกับมาตรการการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด คือผู้เข้าชมต้องใส่มาส์ก วัดอุณหภูมิก่อนเข้าพื้นที่ เปิดหน้าต่าง ประตูภายในอาคารให้อากาศถ่ายเท หลีกเลี่ยงพื้นที่แออัด รักษาระยะห่างระหว่างกลุ่มคน (บางคนก็ไม่สนใจ แต่เราก็จะระวังตัวกันเองต่อไป)
และด้วยสถานการณ์โควิดเลยทำให้กิจกรรมในพื้นที่ยกเลิกไปหลายส่วน เช่น พื้นที่สวนน้ำ กิจกรรมกลางแจ้ง (ตกปลา จับปลา) กิจกรรม workshop ต่างๆ เป็นต้น พอเหลือแค่โซนพิพิธภัณฑ์ก็เลยทำให้คนส่วนใหญ่ใช้เวลาในพื้นที่ไม่ค่อยนาน ประมาณ 1-2 ชั่วโมง ถ้านั่งทานอาหารด้วย ในอาคารจะมี cafe ขายอาหารง่ายๆ พื้นที่นอกอาคารจะมีร้านอาหาร ร้านขนมและร้านขายพืชผักผลไม้ มีลานโล่ง พร้อมหลังคา ลมโกรกสบายให้ไปนั่งพักผ่อนชิวๆได้ ถ้าไม่มีโควิดน่าจะสนุกสนานกันกว่านี้ แต่เท่านี้ก็เหมือนได้ไปเปลี่ยนบรรยากาศพาลูกไปเปิดโลก เปิดหูเปิดตา รู้ว่าโลกของเราไม่ได้มีแค่เรา แต่ยังมีเพื่อนๆสิ่งมีชีวิตอีกหลายรูปแบบอยู่ร่วมกันกับเรา ❤️